EX-HDD 1TB เต็มซะแล้ว รอบนี้คงจะต้องซื้อซะแล้วล่ะ 2 TB รู้สึกว่าราคา HDD จะกลับเข้าสู่สภาวะปรกติแล้วด้วย ดีใจจัง หึๆ
เกิดอาการอย่างเผยแพร่แนวคิดการเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งปวง
โดยหลักแล้วคือ อย่าซื้อของที่ออกมาใหม่สุด ถ้าเรายังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ หรือมันทำให้เกิดมูลค่าอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ดี มีอุปกรณ์บางชนิด ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ที่ยังมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เช่นโทรศัพท์มือถือเมื่อปีก่อน (นั่นแปลว่า ณ ปีนี้ไม่จำเป็นแล้ว) และ Ultrabook ทั้งหลาย (อันนี้ยังมีปัญหาต้องแก้กันอีกเยอะ ของใหม่จะแก้ปัญหาให้หมดไป) นอกจากนั้นยังมีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มอย่างเช่นนักเล่นเกมทั้งหลาย และผู้สามารถทำให้มันงอกออกมาเป็นเงินได้ ยังอาจจะจำเป็นต้องซื้อของที่ออกใหม่สุด เพราะว่าได้เอามาใช้จริงด้วย ดังนั้นจึงไม่แนะนำอย่างยิ่งให้คนที่ไม่มีความรู้ว่า ไอ้ของออกใหม่ที่จะซื้อมันมีคุณสมบัติอะไรดีกว่าของเก่า เพราะนั่นหมายความว่าคุณโง่ตกเป็นเหยื่อการตลาดแล้วล่ะ ดังนั้นก่อนจะซื้ออะไร ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจซื้ออุปกรณ์กันนะครับ เก็บเงินไปใช้กับสิ่งที่จำเป็นในอนาคตจะดีกว่า
ยกตัวอย่างการซื้อ EX-HDD มาเก็บข้อมูลบ้าบอที่ไม่ค่อยจะได้ใช้ โดยเฉพาะข้อมูลพวกรูปภาพ ไฟล์สำหรับติดตั้งโปรแกรม การ์ตูน ภาพยนตร์ และของสะสมต่างๆ ไฟล์ส่วนนี้นานๆจะเข้าไปใช้งานซะที ไม่จำเป็นต้องเอามาทิ้งไว้ในคอมพิวเตอร์ให้รกพื้นที่ทำงาน
พิจารณาที่ตัวราคาต่ำสุด เพราะจุดประสงค์เพื่อเอามากองข้อมูลที่ไม่ค่อยได้ใช้ แต่ก็ไม่อยากให้มันสูญสลายไป เพราะวันดีคืนดีอาจจะต้องเอามาใช้
ราคา ณ ปัจจุบัน เช็คจากเว็บ JIB
2.0 TB WESTERN SATA-III 64MB (WD20EZRX) GREEN
3090 บาท ราคาต่อหน่วยเก็บข้อมูล 1.5 บาท/GB ถือว่าน่าสนใจ
3.0 TB. WESTERN SATA-III (B/F64MB.) WD30EZRX
4450 บาท ราคาต่อหน่วยเก็บข้อมูล 1.5 บาท/GB ไอ้นี่ยังถูกกว่าอีกนิด
แต่ด้วยความจำเป็น ณ ปัจจุบันยังไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลถึง 3 GB ปัจจุบันมีข้อมูลให้เก็บแค่ประมาณ 2.3 TB ดังนั้นจงเลือก 2 TB มาใช้ไปก่อน แล้วสักพักค่อยซื้อ 3 TB อีกทีหลังจากมันราคาตกเหลือสัก 2500 บาท ก็จะกลายเป็นได้ HDD 3 TB ราคาแพงขึ้นอีก 1140 บาท แต่กลายเป็นได้ 2 TB 1 ตัว และ 3 TB อีกหนึ่งตัว เอาไว้ตกทอดให้ผู้มีความจำเป็นได้อีกทีหนึ่ง หรืออาจจะเอาไปใช้เป็นตัวสำรองข้อมูลชั้นที่สองก็ได้ เผื่อตัวหลักที่ใช้งานมีอันเป็นไปจะได้ยังเหลืออะไรไว้บ้าง อีกทั้งยังเอาเงิน 1360 บาท ไปหมุนลงทุนทำอย่างอื่นได้อีกพักใหญ่ๆ และเชื่อว่ามันจะงอกเงยมีมูลค่ามากกว่า 2500 บาทในที่สุด
